รวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ COVID-19 อาการเบื้องต้น การตรวจ วิธีป้องกัน
โควิด -19 :
1.ไวรัสโควิด-19 สามารถแพร่กระจายเชื้อได้อย่างไร
ส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ผ่านทางละอองเสมหะจากการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย
2. ระยะเวลาการมีชีวิตอยู่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสิ่งแวดล้อมภายนอก
ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าไวรัสโควิด-19 อยู่บนพื้นผิวได้นานเพียงใด ไวรัสอาจอยู่รอดได้ในไม่กี่ชั่วโมง โดยน้ำยาฆ่าเชื้อสามารถฆ่าเชื้อไวรัสไม่ให้สามารถแพร่เชื้อได้เป็นอย่างดี
3. ประชาชนทั่วไปควรป้องกันตนเองอย่างไร เพื่อไม่ให้อยู่ในภาวะเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้มีอาการป่วย รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณตา จมูก และปาก โดยไม่ได้ล้างมือ ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือน้ำยาแอลกอฮอล์ล้างมือ 70% หากมีไข้ ไอ หายใจลำบาก ให้ไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินทาง
4. อาการของผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 มีอาการอย่างไร ?
อาการทั่วไป ได้แก่ อาการระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไอ หายใจถี่ หายใจลำบาก ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ ไตวาย หรืออาจเสียชีวิต
5. ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เสียเงินเท่าไหร่
ขณะนี้ภาครัฐได้ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคฉุกเฉิน ทุกโรงพยาบาลต้องรับผู้ป่วยที่เข้าข่ายเสี่ยงทั้งหมด โดยหากตรวจพบเลือดเป็นผลบวก คือติดไวรัสโควิด-19 จะได้รับค่ารักษาฟรีทั้งหมด ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
6. เชื้อสามารถแพร่กระจายในบริเวณสระว่ายน้ำได้หรือไม่
ปัจจุบันยังไม่มีรายงานการติดเชื้อจากการว่ายน้ำในสระหรือแหล่งน้ำอื่น แต่ควรหลีกเลี่ยงสระน้ำที่มีผู้คนแออัด
7. เดินทางไปประเทศเสี่ยงอย่าง เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี หลังจากกลับมาจะโดนกักตัว 14 วันหรือไม่
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเสี่ยง เมื่อเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้งดการออกไปในที่สาธารณะโดยไม่จำเป็น และให้วัดอุณหภูมิกายทุกวัน จนกว่าจะครบ 14 วัน นับจากเดินทางถึงประเทศไทย ระหว่างการสังเกตอาการ หากพบว่ามีไข้ ไอ ให้พบแพทย์โดยทันที
8. ประชาชนสามารถไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้สถานที่ใดบ้าง
1.คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
2. คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
3. คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4.รพ.ราชวิถี
5. สถาบันบำราศนราดูร
6. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
7. รพ.บำรุงราษฎร์
8. คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
9. รพ.มหาราชนครราชสีมา
10. คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
11. รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
12. ศูนย์วิจัยมาลาเรียโซโคล ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา
13. รพ.ลำปาง
14. รพ.สวรรค์ประชารักษ์
15. บริษัท ไบโอ โมเลกุลาร์ แลบบอราทอรีส์ (ประเทศไทย)
16.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ฝ่ายไทย)
17.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ฝ่ายสหรัฐอเมริกา)
18. สำนักป้องกันและควบคุมโรคเขตเมือง
19. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี
20. รพ.นครปฐม
9. ผู้สูงอายุมีโอกาสติดเชื้อ COVID-19 มากกว่าคนทั่วไปหรือไม่
ทุกคนมีสิทธิจะติดโรคได้เท่ากัน ในทุกอายุ เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ ทุกคนจึงยังไม่มีภูมิต้านทานต่อโรคนี้ ไม่ว่าจะร่างกายแข็งแรง จะเป็นเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ แต่ความรุนแรงของโรคอาจแตกต่างกัน โดยผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงดี หรือในอายุน้อย ความรุนแรงของโรคก็จะน้อยกว่าผู้ที่มีอายุมากหรือมีโรคประจำตัวร่วมด้วย
10.ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง ทราบผลภายใน 10 นาที ที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ใช้งานได้จริงหรือไม่
ชุดตรวจไวรัสโควิด-19 ถือเป็นเครื่องมือแพทย์ที่จะต้องขอขึ้นทะเบียนกับ อย.ก่อน และขณะนี้ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนทุกยี่ห้อ ซึ่งประชาชนไม่ควรซื้อมาตรวจเอง เพราะการตรวจวินิจฉัยต้องมีการประเมินอาการอื่นร่วมด้วย จึงมีโอกาสที่จะเกิดผลที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงได้
โควิด-19: รวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้ อาการเบื้องต้น ค่าตรวจ วิธีป้องกัน โอกาสติดเชื้อ | News by The Thaiger
11.การประกาศสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 แบ่งเป็นกี่ระยะ และหมายถึงอะไร
ระยะที่ 1 พบผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ
ระยะที่ 2 มีการติดเชื้อในประเทศ ในวงจำกัด และคนภายในประเทศติดเชื้อจากผู้ที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ
ระยะที่ 3 มีการแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งคนภายในประเทศติดเชื้อจากคนภายในประเทศกันเอง และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
12.หากติดเชื้อไวรัส COVID-19 จนรักษาหายแล้ว สามารถกลับมาเป็นอีกได้หรือไม่
โดยหลักการทางไวรัสวิทยาแล้ว ในโคโรนาไวรัส การเป็นแล้วควรจะมีภูมิต้านทานที่ใช้ในการป้องกันไม่ให้โรคนี้กลับมาเป็นใหม่ได้ แต่ต้องมีการศึกษาในระยะต่อไปว่าตัวไวรัส จะมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเหมือนเช่นในกรณีไข้หวัดใหญ่ที่สามารถเป็นแล้วเป็นอีกได้ เนื่องจากสายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกปี แต่สำหรับ COVID-19 ขณะนี้ยังไม่เห็นพฤติกรรมของไวรัสนี้ เป็นแบบไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใด
13.ถ้ามีการเดินสวนกับผู้ป่วยไวรัส COVID-19 จะสามารถติดโรคได้หรือไม่
การเดินสวนกันไปมาไม่สามารถติดโรคได้ เพราะโรคนี้ติดทางฝอยละออง ถ้าไม่มีการไอจาม ออกมา โอกาสที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือว่าน้อยมาก นอกจากนี้พบว่าฝอยละอองจากน้ำลายสามารถพุ่งถึงกันได้หากอยู่ในรัศมีภายใน 1 เมตร จึงได้มีการกำหนดระยะห่างระยะที่ปลอดภัยคืออย่างน้อย 2 เมตร ในช่วงที่มีการระบาดของโรค
14.เชื้อไวรัสโควิด-19 จะสามารถติดต่อกัน ผ่านระบบท่อแอร์ที่ใช้ร่วมกันในสำนักงานได้หรือไม่
เชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้มีการแพร่กระจายทางอากาศ แต่มีการติดต่อกันทางการสัมผัส ดังนั้นการติดต่อกันผ่านทางท่อแอร์จึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่อาจติดเชื้อจากคนที่อยู่ในบริเวณสำนักงานเดียวกันได้
15.การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ ควรปฏิบัติตนอย่างไร
พยายามยืนรอในจุดที่มีผู้คนไม่แออัดมากนัก มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันทุกครั้งที่ใช้บริการ พกแอลกฮอล์หรือเจลล้างมือที่มีความเข้มข้นมากกว่า 70% เพื่อทำความสะอาดมือที่ใช้จับหรือโหนราวรถเมล์ รถไฟฟ้า MRT BTS ทุกครั้งหลังใช้บริการ
16.ประเทศไทยมีการประกาศให้ประเทศใดบ้าง เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายจากไวรัสโควิด-19
ประเทศจีน (รวมฮ่องกง , มาเก๊า) ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศอิตาลี และประเทศอิหร่าน
17. เชื้อไวรัส COVID-19 สามารถเข้าทางบาดแผลในร่างกายได้หรือไม่ ?
จากการตรวจสอบ ยังไม่พบหลักฐานว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถติดต่อเชื้อทางบาดแผลได้แต่อย่างใด
18.ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีโอกาสหายป่วยสูงหรือไม่ ?
ผู้ป่วยทั่วไปมีโอกาสหายจากโรคได้เอง สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่หากพบว่ามีอาการป่วยรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยทันที
19.การใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้า และมีการซักด้วยผงซักฟอกตามปกติ จะสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้หรือไม่ ?
การซักผ้าด้วยผงซักฟอกและนำไปตากแดด เพียงพอที่จะฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว
20.ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้หรือไม่ ?
ไม่ได้ เพราะเป็นเชื้อคนละตัวกัน
21.ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นแล้ว จะเสียชีวิตทุกคนหรือไม่ ?
ไม่ทุกคน พบอัตราเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2-3 % เท่านั้น แต่พบว่าในกลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวที่มีอายุมากกว่า 80 ปี สูงถึง 14–20 %
22. ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การตรวจหาไวรัสโควิด-19 ฟรี ต้องมีลักษณะอย่างไร ??
1. มีไข้ 37.5 °C ขึ้นไป พร้อมมีอาการ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ
2. มีประวัติเสี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วง 14 วัน ก่อนมีอาการ อาทิ
เดินทางมาจากเขตโรคติดต่อ / พื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
ประกอบอาชีพที่สัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากเขตโรคติดต่อ / พื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ / ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ
23. ยาสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร สามารถรักษาโรคไวรัสโควิด-19 ได้หรือไม่
ฟ้าทะลายโจร เป็นยาสมุนไพรที่กรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำให้ใช้รักษาหวัด และให้กินทันที ส่วนไวรัสโควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์หนึ่งในกลุ่มโคโรนาไวรัส ไม่ใช่เชื้อไข้หวัดใหญ่ และยังไม่เคยมีการนำฟ้าทะลายโจรมาทดลองใช้รักษาโควิด-19 แต่อย่างใด